ความรู้ทั่วไป

สายไฮดรอลิคกับสเปคเครื่องจักร

สายไฮดรอลิค (Hydraulic Hose) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในระบบไฮดรอลิคของเครื่องจักร เช่น รถขุด, รถเครน, หรือเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม สายไฮดรอลิคทำหน้าที่ในการส่งผ่านของเหลว (น้ำมันไฮดรอลิค) ซึ่งมีแรงดันสูงเพื่อให้เครื่องจักรทำงานตามที่ออกแบบไว้

การเลือกสายไฮดรอลิคให้เหมาะกับสเปคเครื่องจักร

  1. แรงดัน (Pressure Rating)
    • เลือกสายที่รองรับแรงดันสูงสุดได้มากกว่าแรงดันปฏิบัติการ (Working Pressure) ของระบบอย่างน้อย 1.5-2 เท่า เพื่อความปลอดภัย
    • สังเกตค่าที่กำหนด เช่น PSI หรือ Bar บนสายหรือสเปคของสาย
  2. อุณหภูมิ (Temperature Range)
    • ตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำมันไฮดรอลิคและสภาพแวดล้อม เพื่อเลือกสายที่รองรับอุณหภูมิได้เหมาะสม
    • เช่น สายยางบางชนิดสามารถรองรับอุณหภูมิ -40°C ถึง +100°C
  3. เส้นผ่านศูนย์กลาง (Inner Diameter)
    • ควรเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณการไหล (Flow Rate) ที่ต้องการ
    • ขนาดสายที่เล็กเกินไปอาจทำให้เกิดการสูญเสียแรงดัน
  4. ประเภทหัวต่อ (Fittings)
    • หัวต่อควรเข้ากันได้กับอุปกรณ์และระบบไฮดรอลิค เช่น BSP, NPT หรือ JIC
    • ควรคำนึงถึงวัสดุของหัวต่อเพื่อป้องกันการกัดกร่อน
  5. วัสดุของสาย (Material)
    • วัสดุภายนอกของสาย เช่น ยางสังเคราะห์, เทอร์โมพลาสติก หรือสายเหล็กถัก (Braided Steel) ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและทนต่อสารเคมีที่อาจสัมผัส
  6. มาตรฐานการผลิต (Standards)
    • ตรวจสอบว่าสายผ่านมาตรฐาน เช่น SAE, ISO, หรือ DIN เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ
  7. ระยะโค้งงอ (Bend Radius)
    • สายต้องสามารถโค้งงอได้โดยไม่เสียหายหรือประสิทธิภาพลดลงในระหว่างใช้งาน

ข้อควรระวัง

  • หมั่นตรวจสอบสายเป็นประจำเพื่อตรวจหาอาการเสื่อมสภาพ เช่น รอยแตก, รั่ว, หรือบวม
  • ห้ามใช้งานสายที่ไม่ตรงตามสเปค เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบและอันตรายต่อผู้ใช้งาน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปคเครื่องจักรเฉพาะรุ่นหรือการเลือกสายไฮดรอลิคให้เหมาะสม แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง